โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผู้ชาย
แต่ไหนแต่ไรผู้ชายส่วนใหญ่จะให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพน้อย และมักจะถือว่าการดูแลสุขภาพเป็นหน้าที่ของผู้หญิง
ฉะนั้นถ้าเปรียบเทียบระหว่างหญิงกับชายว่าใครอายุยืนกว่ากัน สถิติเผยว่าผู้หญิงมีอายุยืนกว่าผู้ชายโดยเฉลี่ยประมาณ 7 ปี และเมื่อดูโรคที่คร่าชีวิตผู้ชายในอันดับต้นๆ ก็หนีไม่พ้นโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ถ้าผู้ชายให้ความสนใจในการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินไปในทางที่ถูกต้อง และออกกำลังกายบ้างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ผู้ชายมีสุขภาพดีขึ้น และมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพขึ้น ผลพลอยได้อีกอย่างหนึ่งคือ ผู้หญิงจะเป็นหม้ายช้าลง
โรคที่มักจะคุกคามผู้ชายเมื่อวัยมากขึ้น นอกจากโรคหัวใจแล้ว ยังมีโรคมะเร็งในต่อมลูกหมาก ความดันโลหิตสูง อ้วน เบาหวาน และโรคกระดูกพรุน
เนื้อหา
โรคมะเร็งในต่อมลูกหมาก
มะเร็งที่ผู้หญิงหวาดกลัวคือมะเร็งเต้านม ในขณะที่ผู้ชายกลัวมะเร็งในต่อมลูกหมาก เพราะผู้ชายไม่ยากให้เกิดอะไรขึ้นกับอวัยวะส่วนที่จะกระทบกระเทือนความเป็นชาย ปัจจุบันพบว่าอันตราการเกิดโรคนี้สูงขึ้นทั้งในฝรั่งและคนเอเชีย
แม้โรคนี้จะมียีนเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่งานวิจัยพบว่า พฤติกรรมบริโภคที่ไม่ดีอาจนำไปสู่สาเหตุการเป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ มีรายงายการวิจัยว่าแม้ผู้ชายที่เป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากก็สามารถที่จะลดความเสี่ยงการตายจากโรคนี้ โดยการทานอาหารเสริม (HERO) และการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคดังต่อไปนี้
ลดอาหารไขมันสูง
ไขมันอาจเร่งให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตได้ดีนอกจากนี้ยังทำให้อ้วน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคนี้ และที่สำคัญคือ ไขมันทำให้ระดับฮอร์โมนเพศสูง ระดับฮอร์โมนเพศมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งในต่อมลูกหมากเช่นเดียวกับมะเร็งเต้านมในผู้หญิง
ชนิดของกรดไขมันอาจมีผลต่อการเจริญของเซลล์มะเร็ง ในบรรดากรดไขมันทั้งหลาย กรดไขมันอิ่มตัวเป็นอันตรายอันดับหนึ่ง รองลงมาคือกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง เช่น กรดไลโนเลอิกหรือกรดเมก้า 6 (น้ำมันถั่วเลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด) กรดไขมันเหล่านี้แม้จะดีในแง่ช่วยลดคอลเลสเทอรอล แต่ถ้ากินมากเกินไป อาจกระตุ้นเซลล์มะเร็งได้ในทางตรงกันข้าม กรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีมากในปลาทะเล แม้จะเป็นกรดไขมันอิ่มตัวหลายตำแหน่ง แต่ก็เก็บกรดไขมันจำเป็นที่ให้ผลในการป้องกันทั้งโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ปลาน้ำจืดบางชนิดก็มีกรดโอเมก้า 3 มาก เช่น ปลาช่อน ส่วนไขมันที่เป็นพระเอกในยุคนี้คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว(น้ำมันมะกอก น้ำมันลำข้าว น้ำมันถั่วลิสง) ซึ่งนอกจากจะลดไขมันแล้ว ยังมีผลในการป้องกันมะเร็งด้วย
จำกัดอาหารประเภทเนื้อแดง (เนื้อสัตว์ใหญ่)
เพราะในเนื้อแดงจะมีไขมันแทรกอยู่ไม่น้อย การกินเนื้อมาก แม้จะเป็นเนื้อไม่ติดมัน ก็ทำให้ได้รับไขมันเพิ่มขึ้นด้วย
มีรายงานการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดว่า ชายที่กินไขมันเฉลี่ยวันละ 30.5 กรัม จากเนื้อแดงมีโอกาสตายจากมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่าชายที่กินไขมันจากเนื้อแดงวันละ 3.2 กรัม ฉะนั้นถ้าผู้ชายจะกินเนื้อให้น้อยลง ก็เป็นการลดมะเร็ง ลดไขมันในเลือดไปในตัว
กินถั่วเหลืองแทนโปรตีนจากเนื้อแดงบ้าง
งานวิจัยเบื้องต้นพบว่า โปรตีนถั่วเหลืองในรูปเต้าหู้ แป้งถั่วเหลือง และ นมถั่วเหลือง ให้ผลไม่แพ้อาหารไขมันต่ำ และสามารถชะลอความรุนแรงของมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ เพราะถั่วเหลืองมีฮอร์โมนพืชที่เรียกว่า ไฟโตเอสโตรเจน เพิ่มปริมาณเอสโตรเจนในชาย ทำให้เกิดสมดุลของฮอร์โมนเพศชาย
เน้นผัก ผลไม้ และเมล็ดธัญพืชต่างๆ
หลักฐานมากมายยืนยันประโยชน์ของผักผลไม้ในการป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารแคโรทีนนอยด์ (สีเขียวจัด แดง เหลือง และ ส้ม) ธัญพืชและถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ มีสารไอโซฟลาโวนอยด์สูง และอาจมีผลต่อการลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ผักผลไม้ยังมีวิตามินซีและเส้นใยอาหาร ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคหัวใจอีกด้วย
กินมะเขือเทศให้มากขึ้น
ในมะเขือเทศมีสารไลโคปีนซึ่งเป็นสารในตระกูลแคโรทีนอยด์ มีฤทธิ์ต้านออกซิเดชันเป็นสองเท่าของสารเบต้าแคโรทีน มีผลในการป้องกันมะเร็งในต่อมลูกหมาก ซึ่งนักวิจัยของฮาร์วาร์ดได้ทำการวิจัยและพบผลเช่นนั้นจริงผลิตภัณฑ์จากมะเขือก็ให้ผลเช่นเดียวกัน มะเขือเทศที่ผ่านความร้อนในการปรุงอาหารจะปลดปล่อยสารไลโคปีนออกจากผนังเซลล์ได้ดีกว่ามะเขือเทศดิบทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น เพิ่มฤทธิ์ในการป้องกันมะเร็ง
กินอาหารที่มีวิตามินดีสูง
ผู้ชายที่อยู่ในบริเวณที่มีแสงน้อยมีโอกาสเกิดมะเร็งในต่อมลูกหมากสูงเพราะแสงแดดช่วยสร้างวิตามินดีในผิวหนังคนเรา แต่คนไทยเรานั้นได้รับแสงแดดเหลือเฟือ ปัจจัยข้อนี้จึงไม่น่ากังวล แต่ในคนสูงอายุที่ประสิทธิภาพการสร้างวิตามินดีลดลง อาจเพิ่มอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น นม แต่แนะนำให้เลือกนมพร่องมันเนยหรือนมขาดไขมัน
โรคอ้วน
ความอ้วนมักจะมาคู่กับการกินที่ตามใจปากและไม่ออกกำลังกาย ผู้ชายเวลาที่อ้วนมักจะลงพุง ไขมันที่สะสมตามบริเวณพุงนั้นร้ายกว่าไขมันที่สะสมในส่วนสะโพกหรือต้นขา เพราะสร้างปัญหาให้สุขภาพ ไขมันที่พุงนั้นจะสลายตัวไปอยู่ในกระแสเลือดได้ง่ายกว่า ทำให้ผู้ชายมีความเสี่ยงของโรคหัวใจคอลเลสเทอรอลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นผลให้เกิดโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ง่ายขึ้น และเมื่ออ้วนแล้วแล้วโรคมะเร็งจะวิ่งมาหา
ในเนื้อแท้แล้วผู้ชายก็รักสวยรักงามไม่แพ้ผู้หญิง ฉะนั้นผู้ชายที่รักษาหุ่นให้สะโอดสะองไม่อ้วนลงพุง นอกจากจะเพิ่มบุคลิกภาพแล้ว ยังทำให้ไกลจากโรคที่กล่าวมาด้วย
การระวังน้ำหนักตัวและน้ำหนักพุงนั้นก็คือ ลดอาหารไขมันสูง (ของทอด แกงกะทิ เนื้อสัตว์ติดมัน ขนมเบเกอรี่ทั้งหลาย รวมทั้งขนมหวาน) จำกัดปริมาณการกินอย่างอร่อยจนเกินพิกัด เลือกอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำและให้คุณค่าทางอาหารสูง ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีรายงานการวิจัยว่า เส้นรอบพุงนั้นจะเพิ่มมากขึ้นตามอายุ แม้ในคนค่อนข้างจะมีสุขภาพดีก็ตาม หลังอายุ 30 ปีขึ้นไปควรฝึกนิสัยการออกกำลังกายเข้าไว้สักวันละ 30 นาที จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลเมื่ออายุมากขึ้น
โรคหัวใจ
ปัจจุบันสถิติสูงสุดของโรคที่คร่าชีวิตทั้งชายและหญิงเห็นจะหนีไม่พ้นโรคหัวใจ ความเป็นเพศชายทำให้มีความเสี่ยงของโรคนี้มากกว่าผู้หญิง แต่ผู้หญิงก็อย่าเพิ่งดีใจ ที่เป็นเช่นนี้เพราะผู้หญิงมีฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นตัวป้องกันโรคหัวใจ แต่ก็เพียงแค่ชั่วอายุครึ่งศตวรรษเท่านั้น เพราะพอผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ตัวป้องกันก็จะหมดไป ความเสี่ยงโรคหัวใจก็จะวิ่งแซงหน้าผู้ชาย
โรคความดันโลหิตสูง
ปัจจัยที่เสริมความเสี่ยงของโรคนี้คือ ความเครียด ถ้ารู้จักความเครียดก็จะลดความเสี่ยงโรคนี้ไปในตัว
คนที่มีความดันสูง โอกาสเกิดโรคหัวใจและเส้นโลหิตในสมองตีบมีมากขึ้น โรคนี้ได้ชื่อว่าฆาตกรแห่งความเงียบ เพราะคนที่เป็นมักไม่รู้ตัวล่วงหน้าถ้าไม่ตรวจสุขภาพ ผู้ชายสามารถที่จะป้องกันโรคหัวใจและความดันโลหิตสูงได้ โดยใช้มาตรการเดียวกันกับการป้องกันโรคมะเร็งและโรคอ้วน ลดอาหารที่มีเกลือหรือเครื่องปรุงที่มีรสเค็ม ลดแคลอรีหรือพลังงานโดยการลดอาหารไขมันสูง และลดปริมาณในมื้ออาหาร เพิ่มผักและผลไม้
การรับประทานผักผลไม้วันละ 8 – 9 ส่วนร่วมกับการดื่มนมไขมันต่ำวันละประมาณ 3 แก้ว (750 มิลลิลิตร) ให้ผลในการลดความดันดีพอๆ กับการใช้ยาลดความดัน ทั้งนี้เพราะผักผลไม้นั้นอุดมไปด้วยโพแทสเซียมและแมกนีเซียมช่วยในการลดความดัน ส่วนนมนั้นก็มีแคลเซียม โพแทสเชียม และแมกนีเซียมสูง ซึ่งงานวิจัยชี้ว่าสารอาหารดังกล่าวอาจมีส่วนในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
นอกเหนือจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ควรจะมีการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตบางอย่าง ข้อหลังนี้ผู้ชายเป็นจำนวนมากยังพยายามไม่พอ ได้แก่ การงดบุหรี่ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอและลดละความเครียด
โรคกระดูกพรุน
เรามักจะคิดว่าโรคกระดูกพรุนเป็นโรคของผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนแต่โรคนี้ก็มีโอกาสเกิดกับผู้ชายได้เท่าๆ กับผู้หญิง เพียงแต่ชั่วระยะเวลาการเกิดในผู้ชายจะช้ากว่า เพราะผู้ชายจะสูญเสียเนื้อกระดูกเร็วเท่ากับผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเมื่อผู้ชายอายุ 65 ปี ในจำนวนคนที่พบเป็นโรคกระดูกพรุน หนึ่งในห้าจะเป็นผู้ชาย และหนึ่งในสามของผู้ชายที่ชรามากๆ ถ้ามีกระดูกหักมักจะเสียชีวิตภายในหนึ่งปี ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากกว่าในผู้หญิงแต่กระนั้นโรคกระดูกพรุนในผู้ชายมักจะถูกมองข้าม เพราะงานวิจัยเรื่องกระดูกพรุนมักจะทำให้ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ รายงานตัวเลขการพบกระดูกพรุนในชายจึงน้อยกว่าในหญิง
ผู้ชายนั้นได้เปรียบผู้หญิงตรงที่มีเนื้อกระดูกหนาแน่กว่าผู้หญิง และไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเอสโตรเจนเหมือนหญิงวัยหมดประจำเดือนถ้าไม่คิดถึงข้อนี้ ปัจจัยเสี่ยงการเกิดกระดูกพรุนที่เหลือนั้นมีอิทธิพลต่อหญิงและชายเท่ากัน ได้แก่ คนรูปร่างเล็ก ขาดการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมต่ำ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียมก็ลดลงตามอายุทั้งในหญิงและชาย
ข้อแนะนำการป้องกันโรคกระดูกพรุน
ดื่มนมพร่องมันเนยหรือนมขาดไขมันวันละ 3 แก้ว เพื่อให้ได้ – แคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม ในวัย 65 ปีขึ้นไปมีข้อแนะนำให้กินแคลเซียมวันละ 1,500 มิลลิกรัม แล้วแต่เชื้อชาติ คนไทยอาจจะเลือกปริมาณต่ำสุด เพราะมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้เราไม่จำเป็นต้องกินแคลเซียมมากเท่าชาวตะวันตกซึ่งในกรณีนี้อาจจะต้องรับประทานแคลเซียมเสริมหากได้จากอาหารไม่เพียงพอแต่การทำงานของแคลเซียมต้องอาศัยวิตามินดีช่วยในการดูดซึม ฉะนั้นผู้สูงอายุควรออกมารับแสงแดดในยามเช้าบ้าง เพื่อให้ร่างกายนำไปสร้างวิตามินดีอย่าอุดอู้อยู่แต่ในบ้านหรือในห้อง จะทำให้เกิดความรู้สึกเหี่ยวเฉาไปตามวัย
แมกนีเซียมเป็นเกลือแร่ที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อความแข็งแรงของกระดูก อาหารที่มีแมกนีเซียมสูง ได้แก่ เมล็ดพืชต่างๆ เช่น ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท ถั่วต่างๆ และผักใบเขียวทุกชนิด
ลดอาหารเค็มหรืออาหารที่มีโซเดียมสูง โซเดียมทำให้ร่างกายเราสูญเสียแคลเซียมไปกับปัสสาวะมากขึ้น และกระดูกยิ่งเปราะเร็วมากขึ้น
คนที่มีอายุมักชอบกินเค็มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ควรพยายามลดอาหารที่มีส่วนผสมของโซเดียม เช่น เกลือ ซีอิ๊ว น้ำปลา เต้าเจี้ยว แหนม ไข่เค็ม ปลาเค็ม เต้าหู้ยี้ และอาหารขบเคี้ยวทอดกรอบ
หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้ความฟิตมากขึ้น และสมรรถภาพทางเพศก็ดีขึ้นด้วย แต่สำหรับชายที่มีอายุมาก อาจใช้การออกกำลังกายโดยการเดินจะง่ายและดีที่สุด
ละทิ้งนิสัยที่ไม่ดี คือการสูบและดื่มของมึนเมา เพราะทั้งสองอย่างนี้จะลดการดูดซึมสารอาหารของกระดูก และทำให้กระดูกบางเร็ว
สรุป
โดยสรุปแล้ว โภชนาการที่ดีนั้นในชายก็ไม่ต่างกันมากกับในหญิง และจะเห็นว่าในภาพรวมการบริโภคอาหารไขมันต่ำ เกลือต่ำ เน้นผักผลไม้และธัญพืช ปลา และไขมันชนิดดี จะช่วยให้ผู้ชายมีสุขภาพดีขึ้น
การบริโภคอาหารอย่างถูกหลักและออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะเป็นยาขนานเอกที่ช่วยให้ห่างไกลจากโรคร้ายที่คอยคุกคามสุขภาพบรรดาคุณผู้ชายทั้งหลายได้แน่นอน
แสดงความคิดเห็น