You are currently viewing เอนไซม์ กับสุขภาพที่ดีของเรา

เอนไซม์ กับสุขภาพที่ดีของเรา

ในช่วงเวลาปี 2020 ที่ผ่านมานี้ อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เลวสำหรับหลาย ๆ คน เกี่ยวกับการเมืองในประเทศ ภัยธรรมชาติ สุขภาพ โรคภัยต่าง ๆ ทั้งเรื่องฝุ่น PM2.5 และ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ มีความใส่ใจในเรื่องสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น วันนี้เรามีบทความสำคัญที่จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจถึงเรื่อง สุขภาพดีไปกับเอนไซม์ และเอนไซม์สำคัญกับสุขภาพที่ดีของเราได้ย่างไร? กันนะคะ

 

เอนไซม์โปรไบโอติกเพื่อสุขภาพที่ดี คืออะไร?

นวัตกรรมใหม่เพื่อสุขภาพ ที่นำโปรตีนสกัดจากข้าว (Rice Protien) เอนไซม์ และ โปรไบโอติก มาร่วมกันทำงานในส่วนประกอบอย่างลงตัว ที่จะเอื้อต่อการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้มากกว่าเดิม

สิ่งที่ทุกคนควรทราบ
เอนไซม์ ในร่างกายของทุกคนมีจำกัด ถ้าใช้อย่างฟุ่มเฟือยเอนไซม์จะหมดอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดโรคเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ตามมา และมี 2 ทางเลือกที่เราทำได้ คือการประหยัดเอนไซม์เพื่อให้มีใช้ได้นานที่สุด หรือการทานเอนไซม์เสริมเพิ่มเติม
จากภายนอกอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องจะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายรักษาเอนไซม์ที่มีอยู่ให้ใช้ได้นานและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

เอนไซม์ (Enzyme)

คือ ตัวตั้งต้นของภูมิคุ้มกันในร่างกาย ถ้าร่างกายของเรามีปริมาณเอนไซม์ที่ไม่สมดุล จนถึงขั้นขาดเอนไซม์เมื่อไร ก็จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายทันที ตั้งแต่ระบบการย่อยอาหาร ระบบการเผาผลาญอาหาร ระบบการขับถ่าย ระบบการให้พลังงานกับร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกัน รวมไปถึงระบบการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

โปรตีนสกัดจากข้าว (Rice Protien)

คือ แหล่งของกรดอะมิโนจำเป็น เป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่ง่ายที่สุดและปลอดภัยที่สุด สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งทนทานของกล้ามเนื้อ ช่วยปกป้องกล้ามเนื้อไม่ให้เกิดอาการฝ่อ ลีบ ระหว่างที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น ลดอาการอ่อนล้า และอาการบาดเจ็บ

จุลินทรีย์โปรไบโอติกจากธรรมชาติ (Probiotic)

เป็นเชื้อจุลินทรีย์ผลิตนมเปรี้ยวและยีสต์ในกลุ่มที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อมีอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบในร่างกายทำงานเป็นปกติ โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน

 

เอนไซม์โปรไบโอติก

ช่วยเติมเอนไซม์และจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ให้ร่างกาย ช่วยทำให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 4 ประการ คือ

เอนไซม์และจุลินทรีย์

  1. กระบวนการย่อยสมบูรณ์ทั้งระบบ ทำให้เซลล์ได้รับสารอาหาร และได้รับออกซิเจนเต็มที่
  2. ย่อยสลายสารพิษที่ตกค้าง ในเลือด และในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ ตับ และไต
  3. ต่อต้านเชื้อก่อเกิดโรคพวกแบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมเพิ่มคุณภาพประสิทธิภาพของภูมิต้านทานเพื่อต่อต้านเชื้อไวรัส, เซลล์ที่ผิดปรกติเช่นเซลล์เนื้องอก, เซลล์มะเร็ง
  4. ต่อต้านอนุมูลอิสระ (free radical) ที่จะมาทำร้ายเซลล์, เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เซลล์เม็ดเลือดขาว T-cells, NK Cell

 

สัญญาณเตือนเมื่อเอนไซม์ลดลง

  • สุขภาพเตือนเมื่อเอนไซม์ลดลง
  • เป็นหวัดง่าย
  • ปวดกล้ามเนื้อ ข้อต่อ หรือเอว
  • ท้องผูกต่อเนื่อง ท้องเสียหรืออุจจาระมีกลิ่นเหม็นมาก
  • คลื่นไส้ ปวดกระเพาะ ไม่อยากอาหาร
  • อาหารไม่ย่อย เรอบ่อย
  • ตาล้า มองเห็นไม่ชัด
  • ปวดหัว นอนไม่หลับ
  • ผมร่วง ผมบาง
  • กระและรอยย่นบนผิวหนังเพิ่มขึ้น
  • น้ำหนักเพิ่มหรือลดกะทันหันโดยไม่มีสาเหตุ
  • มือเท้าชา ตัวบวมง่าย
  • เหนื่อยง่าย เวียนหัว ตาลาย หูอื้อ
  • แพ้อาหาร ผิวหนังอักเสบ หอบ
  • ใจร้อน หงุดหงิด อารมณ์เสีย ไม่ค่อยมีสมาธิ วิตกกังวลง่าย

สัญญาณเตือนเมื่อเอนไซม์ลดลง

 

ทำไมเราจึงต้องการเอนไซม์?

80 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานในร่างกายถูกใช้ไปในขบวนการย่อยอาหาร การมีวิถีชีวิตที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนหรือเย็นจัด ตั้งครรภ์ เครียด พักผ่อนไม่พอ เหนื่อยหนักกับการเดินทาง กิจกรรมเหล่านี้ของร่างกายต้องอาศัยเอนไซม์ การเสริมเอนไซม์ให้ร่างกายด้วยการทาน เป็นการช่วยร่างกายอีกทางหนึ่ง เพราะอายุที่มากขึ้นเป็นสาเหตุของการผลิตเอนไซม์ลดลง และโรคต่างๆ เกิดขึ้นจากการขาดแคลนหรือความไม่สมดุลของเอนไซม์ ดังนั้นเราทุกคนจึงไม่สามารถขาดเอนไซม์ได้

สุขภาพดี ชีวิตมีพลังด้วยธรรมชาติ..ด้วยเอนไซม์บำบัด

เอนไซม์ ที่มหัศจรรย์เหล่านี้ทำหน้าที่สำคัญ 2 อย่าง คือ

  • ย่อยสลายอาหารให้เล็กลงพอที่จะผ่านเซลล์ผนังลำไส้ แล้วสารอาหารเหล่านี้ก็เข้าสู่กระแสเลือดต่อไป การย่อยอาหารเป็นหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งของร่างกาย เมื่อมีการทานอาหาร เอนไซม์ย่อยอาหารจะถูกดึงมาจากทุกระบบของร่างกายในทันทีเพื่อทำการย่อยอาหาร
  • เผาผลาญพลังงานในร่างกายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อันได้แก่ สลายไขมัน ลำเลียงอาหารเข้าสู่เซลล์ แจกจ่ายพลังงานไปยังเซลล์ที่ต้องการ ทุกกลไกของร่างกายตั้งแต่การสร้างกล้ามเนื้อกระดุก ต่อมต่างๆ และเส้นประสาท ไปจนถึงการกำจัดพิษออกจากร่างกาย ล้วนต้องอาศัยการทำงานของเอนไซม์ทั้งสิ้น
    เอนไซม์เสริมช่วยย่อยอาหาร แบ่งเป็น

เอนไซม์โปรตีเอส : เอนไซม์สำหรับย่อยโปรตีน

  • ช่วยในการทำงานของระบบซัยโตไคน์ และมีบทบาทสำคัญในการต้านมะเร็งบางชนิดได้
  • ช่วยย่อยสลายพันธะเปปไตด์ (peptide bond)ของอาหารโปรตีน
  • ช่วยย่อยโปรตีนให้ได้กรดอะมิโน ใชในการต้านมะเร็งและสภาวะอักเสบ ส่งเสริมระบบไหลเวียนโลหิตและระบบภูมิคุ้มกัน
  • สามารถดูดซึมและส่งผ่านเข้าสู่กระแสโลหิตได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการของลำไส้
  • เอนไซม์โปรตีเอส สามารถกำจัดโปรตีนที่เสื่อมสภาพ ที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดแดงในหัวใจแข็งตัว
  • ช่วยขจัดเซลล์ตายของโปรตีนที่เสื่อมสภาพที่ตกค้างเป็นอนุมูลอิสระทำร้ายเซลล์เนื้อเยื่อ
  • ช่วยลดภาวะการอักเสบในอวัยวะต่าง จากโปรตีนที่เสื่อมสภาพ โดยเอนไซม์ไม่เสื่อมสภาพ
  • ช่วยดักจับกับพวกโลหะหนัก ยับยั้งพิษและขจัดออกไปได้ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
  • ช่วยระบบสมดุลกรด-ด่าง และดึงโปรตีนออกจากการจับกับพวกโลหะหนักได้

เอ็นไซม์ไลเปส : เอนไซม์ย่อยไขมัน

  • ทำหน้าที่ร่วมกับน้ำดีในการย่อยไขมัน สลายพวกเนื้อเยื่อไขมัน เพื่อรักษาระดับพลังงานของร่างกายยามที่ร่างกายขาดแคลนพลังงาน
  • ช่วยให้มีการย่อยสลายเนื้อเยื่อไขมันในยามที่ร่างกายกำลังต้องการพลังงานอย่างเร่งด่วนในขณะที่แหล่งพลังงานอย่างคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอแก่ความต้องการ
  • ช่วยให้วิตามินประเภทละลายได้ในไขมันใช้งานได้ดี และกรดไขมันจะทำให้เซลล์และชีวิตดำรงอยู่ได้

เอ็นไซม์อะไมเลส : เอนไซม์ย่อยแป้ง น้ำตาล

เอนไซม์อะไมเลสเป็นเอ็นไซม์ที่มีคุณสมบัติในการย่อยแป้งเป็น ไดแซคคาไรด์ (disaccharide) ได้แก่น้ำตาลมอลโตส (maltose) และเดกซ์ทริน (dextrin) จากนั้นน้ำตาลมอลโตสจะถูกย่อยด้วยเอ็นไซม์มอลเตส (maltase) ให้ได้เป็นน้ำตาลกลูโคส ส่วนเดกซ์ทรินนั้นจะถูกย่อยโดยเอ็นไซม์อะไมเลสและกลูโคอะไมเลส เอนไซม์นี้ถูกสร้างขึ้นที่ต่อมน้าลาย ตับอ่อนและจุลชีพบางชนิดก็สร้างได้

แหล่งผลิตเอนไซม์

เอนไซม์เป็นสารกลุ่มโปรตีนที่ร่างกายได้รับจากการทานอาหารและสร้างขึ้นเอง ซึ่งเอนไซม์เหล่านี้มีอยู่ก่อนที่ร่างกายจะมีปฏิกิริยาเคมีใดๆ เกิดขึ้น วิตามิน แร่ธาตุ หรือฮอร์โมนก็ไม่สามารถทำงานได้หากไม่มีเอนไซม์ เอนไซม์ที่ผลิตขึ้นในร่างกายของแต่ละคนนั้นมีจำนวนจำกัด หากคุณต้องการมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่ดี ต้องรักษาระดับเอนไซน์ในร่างกายให้สมดุล

ที่มาอันมหัศจรรย์อีกแห่งของเอนไซม์ก็คือ เอนไซม์เสริมช่วยย่อยอาหารจากจุลินทรีย์”โปรไบโอติก” ที่ได้จากขบวนการหมักอาหารขั้นสุดท้าย ช่วยระบบย่อยอาหารได้ครบถ้วน และยังช่วยเสริมการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ จึงทำให้เอนไซม์กลุ่มนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าเอนไซม์เสริมจากแหล่ง อื่นๆ

คืนชีวิตใหม่ให้ระบบย่อยอาหาร

อาหารที่ถูกความร้อนแล้วจะผ่านระบบการย่อยอาหาร ช้ากว่าอาหารที่ยังไม่ถูกความร้อน ทำให้อาหารเหล่านั้นบูดเน่า ก่อให้เกิดสารพิษเข้าสู่ร่างกายของเรา มีผลต่อหัวใจ ทำให้ปวดหัว มีปัญหาทางสายตา แพ้ และปัญหาอื่นๆ เอนไซม์เสริมจากจุลินทรีย์โปรไบโอติก จะช่วยในการย่อยสลายอาหาร ในภาวะที่เหมาะสม คือ

  • อาหารถูกย่อยอย่างสมบูรณ์ สารอาหาร ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด
  • ของเสียจากขบวนการย่อยอาหารถูกกำจัดออกจากร่างกาย

การที่จะมีสุขภาพที่ดีนั้นระบบย่อยอาหารต้องสามารถดูดซึม และแจกจ่ายออกไปได้ทั่วร่างกาย

สุขภาพที่ดีนั้นระบบย่อยอาหารต้องสามารถดูดซึม และแจกจ่ายออกไปได้ทั่วร่างกาย

อาหารเพื่อสุขภาพ

คาร์โบไฮเดรตในร่างกายจะเกิดการหมัก ไขมันเกิดการเหม็นหืน โปรตีนเกิดการเน่าเสีย สิ่งเหล่านี้เกิดจากการย่อยสลายอาหารที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดแก๊สไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกายและสะสมเป็นของเสีย ทำให้เกิดปัญหาไขมันสูง มีแคลเซียมไปเกาะตามส่วนต่างๆ โรคไขข้อ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เป็นต้น การเสริมเอ็นไซม์ช่วยย่อย บริโภคอาหารอย่างพอเหมาะจะส่งผลต่อการยืดอายุของอวัยวะสำคัญต่างๆในร่างกายอย่างมาก หากว่าระดับพลังงานยังเพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย การที่มีสุขภาพที่ดี และคงความหนุ่มสาวไว้ได้นานก็ไม่ใช่เรื่องยาก

 

ประโยชน์ของเอนไซม์

  • ช่วยทำให้อาการย่อยอาหารไม่ดี เช่น เรอ มีแก๊ส จุกเสียด วิงเวียน ท้องผูก ดีขึ้น
  • ช่วยให้ความรู้สึกเหนื่อยหลังทานอาหารหมดไป
  • ช่วยกำจัดสารพิษจากเลือดและอวัยวะอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่ออายุมากขึ้น
  • ช่วยในการสลายพิษ (detoxify)หมายถึง การทำลายหรือต่อต้านพิษในร่างกายเรา
  • ช่วยขจัดสารพิษและบำรุงร่างกายไปพร้อมๆกันโดยไม่มีผลข้างเคียง
  • ช่วยให้รู้สึกสบาย มีพลังงาน กระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว ว่องไว
  • ช่วยเรื่องสมองและความจำ คิดไว ไม่หลงลืมและป้องกันอัลไซเมอร์
  • ช่วยชะลอวัย ทั้งหน้าตาและผิวพรรณ
  • ช่วยทำให้เลือดบริสุทธิ์ โดยการย่อยสลายโปรตีนเศษของเซลล์และสารพิษในกระแสเลือด จนร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองได้
  • ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพสมดุล สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • การทานเอนไซม์พร้อมกับอาหารจะช่วยให้อาหารย่อยได้ดีขึ้น

ประโยชน์ของเอนไซม์

10 อาการเจ็บป่วยและโรคต่างๆที่ควรใช้เอนไซม์บำบัดร่วมด้วย

  1. ระบบไหลเวียนของโลหิต (Circulation) เอนไซม์มีความสำคัญในการป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน (Blood Clot) ลดความเหนียว (Stickiness) ของเกล็ดเลือดและเม็ดเลือดแดงในหลอดโลหิต และโคเลสเตอรอลลดความเข้มข้นลง ซึ่งในด้านสุขภาพ ถ้าเลือดดี ทุกอย่างในร่างกายก็เป็นปกติ
  2. ลดการอักเสบ (Inflammation) เพราะเอนไซม์มีหน้าที่ซ่อมแซมและเนื้อเยื่อต่างๆ (Tissue Repair) เร่งสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ รวมทั้งมันสามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม
  3. กำจัดสิ่งแปลกปลอมในเลือด ทั้งสารพิษ (Toxin) ที่ดูดซึมจากลำไส้ใหญ่ รวมกับสารอาหารที่ย่อยไม่สมบูรณ์ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าปกติ
  4. โรคเอดส์ (AIDS) คือ กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อมหรือบกพร่องมิได้เป็นเองตั้งแต่เกิด แต่ติดเชื้อไวรัสที่เรียก Human Immuno-deficiency Virus หรือ HIV (เอช ไอ วี)ติดต่อกันโดยทางเพศสัมพันธ์ หรือทางเลือดหรือ จากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารกในครรภ์
  5. ท้องขึ้นท้องเฟ้อ จากอาหารไม่ย่อย (Indigestion) ปากอาจเปื่อย ผายลมมีกลิ่นเหม็น บางครั้งจะนอนไม่หลับ ท้องร่วงสลับกับท้องผูก ในรายท้องร่วง บางครั้งอุจจาระมีไขมันปนมาก
  6. เอนไซม์ย่อยไขมันในเลือดทำให้โคเลสเตอรอลลดลง ซึ่งถ้าขาดเอนไซม์จะทำให้เลือดไหลผ่านหลอดโลหิตที่ตีบตันไปได้ยาก ความดันโลหิตจึงต้องเพิ่มสูงขึ้นเพื่อขับดันเลือดไหลผ่าน และหัวใจซึ่งต้องการเลือดจำนวนมากมาหล่อเลี้ยงเพราะ ต้องทำงานหนักขึ้น ก็อาจได้รับไม่เพียงพอ ทำให้หัวใจขาดเลือด (Ischemic Heart) ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคหัวใจพิการได้
  7. โรคอ้วน คือ สภาวะร่างกายมีไขมันสะสมมากเกินไป มีได้หลายสาเหตุ เช่น กินจุแต่ออกกำลังน้อย ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ศูนย์ควบคุมความอิ่มของสมองส่วนล่าง (Hypothalamus) ถูกกระทบ กระเทือน กรรมพันธุ์ รวมทั้ง เกิดจากความเครียด การใช้เอนไซม์ย่อยไขมันจะช่วยได้แต่ เป็นการบำบัดตรงปลายเหตุ
  8. การอักเสบต่างๆ รวมทั้งการมีบาดแผล เอนไซม์จะย่อยหนอง (Pus) กำจัดโปรตีนที่แปลกปลอม เอนไซม์จะเข้าไปย่อยเปลือกผิวออก ทำให้ภูมิคุ้มกันสามารถเข้าถึงและทำลายเชื้อโรคต่างๆ ได้ เอนไซม์ทำให้เลือดไหลเวียนดี ผิวหนังจึงได้รับสารอาหารและออกซิเจนสมบูรณ์ เซลล์เกิดใหม่ง่าย แผลหายเร็ว ในปี ค.ศ.1977 มีการใช้มะละกอปิดแผลผ่าตัด เล่ากันว่า วิธีนี้ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
  9. อาการอ่อนเพลีย (Chronic Fatigue Syndrome) ความเครียดทำให้รู้สึกไม่มีแรง การใช้เอนไซม์เสริมก็จะทำให้เยื่อหุ้มเซลล์ทำงานปกติ ของเสียจะถูกพาออกมาทิ้งนอกเซลล์ จึงสดชื่นแข็งแรง และถ้าเชื้อไวรัสเป็นต้นเหตุอ่อนเพลียเรื้อรัง เอนไซม์ร่วมกับภูมิต้านทานที่แข็งแรงขึ้นจะกำจัดไวรัสให้หมด โดยเอนไซม์จะย่อยโปรตีนหุ้ม (Protein Film) ไวรัส
  10. โรคภูมิแพ้ เกิดจากมีความไวค่อนข้างสูงเกินไปของปฏิกิริยาเคมีในร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอม และถ้าเป็นมากอาจหมดสติ ถึงตายได้ การแพ้ (Allergy) นี้พบได้มากกว่าร้อยละ 15 ของคนทั่วไป
    เอนไซม์เสริมจะช่วยย่อยอาหารให้สมบูรณ์จนไม่เกิดมีอณูใหญ่หลงเข้ามาในกระแสโลหิต และเมตาบอลิค เอนไซม์จะย่อยสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในเลือดจนหมด ทำให้อาการแพ้ต่างๆ ทุเลาลงได้ ในกรณีที่คนไข้เป็นโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อตัวเอง (โรคเอสแอลอี SLE)ซึ่งเกิดจากการผิดปรกติของภูมิต้านทาน(Antibody) ซึ่งจะมีผลกับข้อต่อ เยื่อเมือก ผิวหนัง และอวัยวะภายใน การใช้เอนไซม์เสริมร่วมในการรักษาด้วยจะทำให้อาการต่างๆ ดีขึ้น

 

 

สรุป

เอนไซม์นั้นมีความสำคัญต่อสุขภาพที่ดีของร่างกายเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราควรบริหารเอนไซม์ในร่างกายของเราโดยดูแลสุขภาพและร่างกายให้ดี การผักผ่อนให้เพียงพอ การไม่โหมทำอะไรเกิดร่างกายตัวเองจะรับไหว ไม่เครียด เป็นต้น หรือเลือกทานอาหารเสริมที่มีเอนไซม์เป็นประกอบ เพื่อสุขภาพที่ดี และร่างกายที่แข็งแรง ของตัวเองค่ะ